apm24-7.com
ผู้บริหารคือแพทย์ แพทย์อยู่กระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงอื่น คุณว่ากระทรวงไหนดีกว่ากัน ศักดิ์ศรีความเป็นวิชาชีพแพทย์อยู่กระทรวงสาธารณสุขมันดีกว่าอยู่แล้ว. ตอนที่คุยกันเรื่องหมออนามัย หรือวิชาชีพสาธารณสุขชุมชน คนก็จะมองว่าไม่จำเป็นต้องมี เพราะเราขยายเป็นเมืองไปหมดแล้ว ส่งไป รพช. อยากทำเรื่องคุณภาพชีวิต การดูแลเด็ก คนชรา แต่ขาดบุคลากรที่จะลงไปทำ แต่คราวนี้ได้มาทั้งก้อน ทั้งอาคาร ทั้งคน ทั้งงประมาณ เงินเดือนรายหัว ผมว่าวินวิน กับคนที่อยากย้าย และกับมหาดไทย ที่ได้รับ เงิน คน ของ ไปตอบโจทย์เรื่องการกระจายอำนาจ เรื่องคุณภาพชีวิตประชาชน ซึ่งรอบนี้ดูวินๆ. แต่ว่าศักดิ์และศรีไม่เท่ากัน เงินประจำตำแหน่งก็ไม่มี เรื่องของความก้าวหน้าก็ไม่มี ที่ผมกล่าวในตอนแรกคือบุคลากร หากเรียกรวมๆ คือ คน เงิน ของ จำกัดมาก คนส่วนใหญ่ก็มีแค่ 3 คน ไม่ได้เป็นไปตามกรอบ. ทำไมในยุคปัจจุบันยังอยากเป็นข้าราชการ ในเมื่อ 30 บาทก็ดูแลสวัสดิการรักษาพยาบาล. สาธารณสุขศาสตร์ ทํางานอะไร. ระดับพื้นที่ อย่าง อบต. เรื่องการบรรจุมีตั้งแต่ก่อนโควิด -19 ตอนนั้นนักวิชาการสาธารณสุขเป็นสายงานที่ต้องสอบแข่งขัน ในขณะที่สายงานอื่นเป็นการสอบคัดเลือก การสอบแข่งขันนานๆ กพ.
ก็จะมีกองสาธารณสุขที่มีคนที่มีประสิทธิภาพไปช่วยเสริม. ประเทศไทย) ถึงปัจจุบันและอนาคตของวิชาชีพนี้. ชื่อวารสาร งานวิจัย ดู ตรง ไหน. ไม่ได้ เพราะไม่สามารถฉีดวัคซีน หรือทำการดูแลสุขภาพ สิ่งแวดล้อมได้. รอบนี้จำนวนที่อยากถ่ายโอนมีมากกว่าเดิมเยอะมาก. ก็ไม่ได้กระทบอะไรกับตำแหน่งเดิม ถ้าไปดูกรอบของมาตรฐานตำแหน่งเดิม จะพบว่าบางสายงาน บางวุฒิไม่สามารถทำงานสาธารณสุขได้ เช่นจบคณิตศาสตร์ จบเกษตรศาสตร์มา อาจทำงานในบางกรม บางหน่วยงานได้ แต่ไปอยู่ใน รพ. จังหวัดละ 1 คนเท่านั้นที่เป็นชำนาญการพิเศษ เพราะฉะนั้นเวลาไปเจอในงาน ผอ.
การถ่ายโอนเมื่อเทียบกับการย้ายไป อปท. มีการตั้งข้อสังเกตว่ากำลังการผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขสูงเกินไป. แล้วก็เรื่องของประเดินงบประมาณกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรผ่านคัพ ผ่าน คปสอ. สาธารณสุขชุมชน ทํางานอะไร. ขนาดใหญ่ก็มี เพราะฉะนั้นหากดูตามกรอบจริงๆ อัตรากำลังยังต้องการคนเข้ามาช่วยทำงานอีกเยอะ แต่รูปแบบการคัดเลือก รูปแบบการสอบแข่งขันไม่ได้เอื้อให้คนตรงนี้เข้ามาสู่ระบบได้มาก ประเด็นที่สองคือคนจบวุฒิอะไรก็สามารถเข้ามาสู่ตำแหน่งนี้ คนที่จบวุฒิจริงตามสายงานก็เข้ามาสู่ระบบไม่ได้ หากไปเอาตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขมาแยกตามวุฒิที่จบมาจะพบว่ามีหลายสาขามาก. ผมเห็นด้วยกับรูปแบบเดิมมากกว่าเพรามันเป็นลักษณะ 1:1 ตำบลกับตำบล แต่ที่ผ่านมามันไม่สามารถถ่ายโอนได้ เพราะความพร้อมของ อปท. หรือหน่วยงานอื่นก็มีความน้อยเนื้อต่ำใจ หากลองเปรียบเทียบกระทรวงอื่น เช่น ครู สามารถเติบโตได้เทียบเท่าชำนาญการพิเศษ ทั้งสายบริหารและสายวิชาการ แต่ รพ. ก่อนหน้านี้ หลายแห่งก้าวหน้า บางแห่งเป็นโรงพยาบาลขนาดย่อมในพื้นที่เลย จ้างแพทย์ จ้างนักกายภาพบำบัดมาประจำได้ บุคลากรเกือบถึง 50 คนก็มี มีครบทุกสายงานที่ รพ.
ของกระทรวงไม่มี และเขามี on top ให้ รพ. มีงานไหนที่พยาบาลวิชาชีพทำไม่ได้. อยากไปเยอะเพราะผู้บริหาร รพ. กำหนดมา แต่ตั้งแต่เป็น พรบ. ทั้งหมด อยากได้เงินเพิ่มต้องคีย์ตัวชีวัดให้ทัน ผลคือไม่สามารถลงชุมชนได้เต็มที่ กลายเป็นหมอหน้าจอมากกว่าหมอชุมชน. อันนี้ยาก ผมมองว่า ที่ รพ.
ถ้ามองเรื่องการทำงาน เรื่องประชาชน ท้องถิ่นเขาซัพพอร์ตได้ดีกว่า ที่น่าจะมีปัญหาคือการเมือง ความผันผวนทางการเมือง การเปลี่ยนขั้วผู้บริหาร หรือทำงานแล้วขัดแย้งกับขั้วการเมืองก็อาจมีปัญหาได้ การประคองการทำงานของตัวเองก็จะลำบากหน่อย. ก็ยิ่งไม่ได้ บางพื้นที่มีความพร้อมแต่มองว่าเป็นภาระที่ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องของ อปท. รพสต เป็นติ่งหนึ่งของ สสอ.